“กมธ.การทหาร” ผุดโครงการ “พลทหารปลอดภัย” รับเรื่องนายทหารรับใช้ ถูกรองมือรองเท้านายพล “วิโรจน์” เผยกองทัพยอมรับใน กมธ. ยกเลิกระเบียบแล้ว การันตี ถ้ามีเคสซักกางเกงใน-รับใช้นายพลอีก ผิดกฎหมาย ยันต้องตามต่อ บอกน่าห่วง ปัญหายึด ATM ไปกดเงินเงินให้นาย ลั่นเพิ่งจับได้สดๆ ร้อนๆ ก่อนส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เรียบร้อย
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ให้สัมภาษณ์กรณีพลทหารอัดคลิประบายความในใจในการทำหน้าที่พลทหารรับใช้ว่า การนำพลทหารไปทำหน้าที่รับใช้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเก็บขวดเหล้า รวมทั้งการซักเสื้อผ้า กางเกงใน เท่าที่ตรวจสอบตนเข้าใจว่าเป็นคลิปเก่า น่าจะ 2-3 ปีมาแล้ว ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพฤติการณ์หรือพฤติกรรมการนำผลทหารไปใช้งาน ซึ่งเรียกว่าไปบำรุงบำเรอนายพล ควรจะไม่ปรากฏขึ้นอีกในปัจจุบันนับจากนี้เป็นต้นไป
ส่วน กมธ.การทหาร จะตรวจสอบอย่างไร นายวิโรจน์กล่าวว่า เราเคยสอบผ่านในเรื่องนี้ไปว่าระเบียบเรื่องการเป็นทหารรับใช้ยังมีอยู่หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันจากทางกองทัพว่าระเบียบนี้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่ายังมีการนำเอาพลทหารไปรับใช้รองมือรองเท้านายพลหรือไม่ ซึ่งเท่าที่เรารู้กัน ไม่ใช่แค่รับใช้นายพลที่อยู่ในราชการ แต่คนที่อยู่นอกราชการก็มีสิทธิได้รับนายทหารรับใช้ไปทำงานบ้าน ไปทำภารกิจที่ไม่ใช่งานทหารด้วย เราก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพลทหารไม่กล้าออกมาแฉตอนที่ยังประจำการอยู่ ทำให้ต้องปล่อยคลิปย้อนหลังจนกลายเป็นคลิปเก่าใช่หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า แน่นอน ซึ่งทาง กมธ.การทหารมีโครงการทหารปลอดภัย ถ้าเราพบว่าพลทหารถูกทรมานทรกรรม ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ก็สามารถร้องเรียนเข้ามาได้ที่ กมธ. เราจะมีไลน์ OA (Line Official Account) โดยตนได้มอบหมายให้เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะรองประธาน กมธ. ดูแล
เมื่อถามว่า ระเบียบการยกเลิกพลทหารรับใช้ยกเลิกตั้งแต่ปีไหน นายวิโรจน์ ระบุว่า ตนเข้าใจว่ายกเลิกไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทางกองทัพก็ชี้แจงว่าไม่มีกฎระเบียบให้นายพลมีพลทหารรับใช้ แต่เข้าใจว่าจะมีการเอาไปใช้โดยพลการหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบ แต่เรื่องที่น่ากังวลกว่านั้นที่เจอสดๆ ร้อนๆ คือการยึดบัตร ATM ของพลทหารเเล้วนำไปกดเงิน ปัญหานี้ กมธ.จับได้สดๆ และได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ซึ่งโครงการพลทหารปลอดภัยก็จะมีการรับเรื่องเหล่านี้ด้วย
ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์
matichon.co.th