ครูมานิตย์ ฉะ หมออ๋อง ติดตามกฎหมายเข้าสภา ทำเกินหน้าที่ โวยกระทู้สดอาจแกล้งถามตอน รมต.ไม่อยู่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม รองประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง จะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อเร่งรัดกฎหมายการเงิน เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ไม่ยอมลงนามรับรอง ว่า ไม่ใช่หน้าที่ นายปดิพัทธ์ เล่นเกินบทบาท ทำตัวเป็นประธานที่อยู่กับฝ่ายค้าน หากอยู่ข้างล่างไม่มีปัญหา แต่อยู่บนบัลลังก์อย่าให้คนมองว่าเป็นประธานที่เลือกข้าง ต้องแสดงความเป็นกลางไว้ ตนไม่เคยเห็นประวัติศาสตร์ ที่รองประธานสภามาแถลงข่าวว่ารัฐบาลอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องของกฎหมายที่ค้างสภา พรรคก้าวไกลมีเวลาเลยทำกฎหมายเข้าสภาได้มากกว่าปกติ แต่ในส่วนของรัฐบาลต้องรอบคอบ การทำกฎหมายต้องให้กฤษฎีกาดูก่อน โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน ยิ่งต้องรอบคอบ

นายครูมานิตย์กล่าวว่า ที่นายปดิพัทธ์ออกมาท้วงติงการไม่ไปตอบกระทู้ของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของประธานวิปฝ่ายค้าน และการไปตอบกระทู้ของรัฐบาล รัฐมนตรีบางคนต้องทบทวนดูด้วยเพราะแต่ถ้าเป็นกระทู้สด อาจเป็นการกลั่นแกล้งกันได้ เช่น รู้ว่ารัฐมนตรีไม่อยู่ก็ยื่นกระทู้เข้ามา ตอนรัฐมนตรี อยู่ไม่ถาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุไม่เคยมีรองประธานสภาทำเช่นนี้ จะสามารถเอาผิดอะไรได้หรือไม่โดยเฉพาะในแง่จริยธรรม นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องของมารยาท และต้องเข้าใจวัฒนธรรมของคนเป็นประธาน นายปดิพัทธ์ก็หลุดหลายครั้งบนเวทีตอนทำหน้าที่ประธาน และการที่ตนไม่ท้วงติงการทำหน้าที่ในที่ประชุมเพราะยังให้โอกาส

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.จะยื่นอภิปรายตามมาตรา 153 วันที่ 25 มี.ค.นี้ รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมอย่างไรว่า ความจริงไม่ต้องเตรียมความพร้อมอะไร เพราะโดยข้อเท็จจริงรัฐบาลยังไม่มีเงินมาบริหารประเทศ ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.งบยังอยู่ในสภา เมื่อถามว่าในการอภิปรายของ ส.ว.มีการตั้งข้อสังเกตจะอภิปรายไปถึงประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับการพักโทษ นายครูมานิตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องของราชทัณฑ์ เชื่อว่า รมว.ยุติธรรม จะชี้แจงได้ ส่วนที่พรรคก้าวไกลไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เพราะไม่มีข้อมูลเช่นเดียวกัน ถามว่าจะเอาข้อมูลอะไรมาอภิปราย เพราะการอภิปรายครั้งแรกต้องให้สมศักดิ์ศรี ส่วนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะนำไปอภิปรายได้หรือไม่นั้น มองว่าเรื่องดังกล่าวจะไปทำอะไรรัฐบาลได้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือมาก็มีการตั้งคณะกรรมการให้รอบคอบ ให้ทุกอย่างเรียบร้อย เรื่องนี้ตอนแรกก็ไม่มีปัญหาแต่พอจะทำคนนั้นก็ไม่เห็นด้วยคนนี้ก็ไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องหาความรอบคอบจนกว่าจะตกผลึก วันนี้อาจไม่ได้ให้ 100% ทั้งหมดแล้วเพราะนายกฯ ฟังเหตุผล

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการซูเอี๋ยกันหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า “ไม่มี เชื่อผมเถอะว่าไม่มี แต่ไม่มีประเด็น การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่ของฝ่ายค้าน ถ้ามีประเด็นไม่พอ ข้อมูลไม่พอ มีหลักฐานไม่พอจะเสียคน วันนี้ยังไม่มีงบประมาณมาให้ทำงาน ทาง ส.ว.เองเขาก็ยังไม่มีประเด็นยังยอมรับว่าจืดชืด”

ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์
matichon.co.th