‘ชัยวัฒน์’ โดนอีก! เลขาฯ ส.ป.ก. สั่งแจ้งจับ ปมนำพวก ถอนหลักหมุด ส.ป.ก. ในโคราช รวม 27 หมุด ยันไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯ เขาใหญ่

วันที่ 3 มี.ค. 2567 ที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นายอำมวิต คงแก้ว ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.โยธิน วรรณทวี ผกก.สภ.หมูสี โดยมี ว่าที่ พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง พนักงานสอบสวน รับแจ้งความ เพื่อกล่าวโทษ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กับพวก

โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2567 เวลา 10.00 น. นายชัยวัฒน์กับพวกได้ลงพื้นที่บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และได้กระทำการซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยเลขาธิการ ส.ป.ก. สั่งการให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้

1.ที่ดินที่เกิดเหตุตั้งอยู่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นที่ดิน ส.ป.ก.ได้รับมาจากการนำที่ดินที่จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามที่ปรากฏในพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฉบับลงวันที่ 18 ก.ย. 2505 เนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่

โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2530 มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 6/2527 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2527 ที่มีกรมป่าไม้ (ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานอุทยานแห่งชาติในขณะนั้น) ร่วมเป็นกรรมการ

จากนั้นได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ.2534 พื้นที่ที่เกิดเหตุจึงเป็นที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ ส.ป.ก. ตามมาตรา 26(3) และมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518

2.นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวก ดำเนินการถอนหลักหมุด ส.ป.ก.ในแปลงเลขที่ 9 ระวางที่ 5238ll 5008 และแปลงอื่นในบริเวณโดยรอบ รวม 27 หมุด โดยกล่าวอ้างเพื่อถือเอาว่าหลักหมุดดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

โดยนายชัยวัฒน์กับพวกได้ยักย้ายหลักหมุดดังกล่าว ซึ่ง ส.ป.ก.นครราชสีมา ได้ฝังไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินโครงการที่จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่อันเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของ ส.ป.ก.

3.หลักหมุดดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการกำหนดขอบเขตรูปแปลงแผนที่ หลักหมุดดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินของ ส.ป.ก. โดยนายชัยวัฒน์กับพวกได้ถอนหลักหมุดดังกล่าวและเอาไป ซึ่งปัจจุบัน ส.ป.ก.นครราชสีมายังไม่ได้รับหลักหมุดจำนวนดังกล่าวคืน

4.การปฏิบัติหน้าที่ของนายชัยวัฒน์กับพวกที่กล่าวอ้างว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พ.ศ.2505 ซึ่งกรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบข้อมูล Field book ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ (เดิมกรมป่าไม้) เป็นผู้บันทึกจัดทำขึ้นเองตามมาตรฐานแผนที่และการรังวัดสากล ยืนยันว่า ที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ดังนั้น การกระทำของนายชัยวัฒน์กับพวก ที่ถอนหลักหมุด ส.ป.ก. จำนวน 27 หมุด ก็ดี เอาหลักหมุดไปก็ดี การกระทำดังกล่าวจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 363 และมาตรา 334

ด้วยข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของนายชัยวัฒน์กับพวกดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น เป็นการกระทำหน้าที่ที่มีลักษณะผิดต่อกฎหมายอาญาชัดเจน ดังนั้น เลขาฯ ส.ป.ก. จึงสั่งการให้ ส.ป.ก.นครราชสีมา แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี เพื่อให้นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
khaosod.co.th