ทีมกฎหมายก้าวไกลสู้เต็มที่ รับมือทุกฉากทัศน์ หลังมติ กกต.ส่งศาลยุบพรรค

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว เมื่อวันที่ 12 มีนาคมว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรค ก.ก.ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … กฎหมายอาญา มาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการศึกษาและวิเคราะห์คำวินิจฉัยต่อ กกต.โดยเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ากระทำการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กกต.จึงมีมติโดยเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล มอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน กกต.ตามมาตรา 93 วรรคสอง

รายงานข่าวแจ้งว่า กระบวนการหลังจากนี้ ทางสำนักกฎหมายและคดีของสำนักงาน กกต. จะต้องดำเนินการยกร่างคำร้องเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมแนบหลักฐานโดยเฉพาะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นเอกสารประกอบคำร้อง ทั้งนี้ ตามมาตรา 93 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการไว้ แต่เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอเรื่องพร้อมความเห็นและที่ประชุม กกต.มีมติเรียบร้อยแล้วนั้น ตามกระบวนการต้องดำเนินการโดยเร็ว อีกทั้งคดีนี้ไม่มีข้อกฎหมายซับซ้อน เมื่อยกร่างคำร้องเสร็จสิ้นก็สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้ทันที คาดว่าเร็วสุดจะใช้เวลายกร่างคำร้องไม่เกิน 2 วัน แต่โดยทั่วไปกระบวนการจะไม่ช้าไปกว่าหนึ่งสัปดาห์

ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า พรรค ก.ก.และทีมกฎหมายได้เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือ ไม่อยากให้ด่วนสรุปว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทีมกฎหมายจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องไม่ให้เกิดการยุบพรรค และการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ประเด็นนี้ไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่ชะตากรรมและอนาคตของพรรค ก.ก.เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการพยายามพิสูจน์ว่าสิ่งที่พรรคทำไปไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากทำได้จะสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องสำหรับการเมืองไทยในอนาคต

เมื่อถามว่า มีการสร้างพรรคสำรองไว้หรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า มีการรับมือและวางแผนทุกฉากทัศน์อยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งด่วนพูดถึงสิ่งที่อาจจะยังไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ทำเต็มที่ พิสูจน์ความจริงเท่าที่จะทำได้ จนถึงวันที่จะเกิดการวินิจฉัยคำตัดสินออกมา ส.ส.และทีมงานของพรรคยังทำงานเต็มที่ การผลักดันกฎหมายความเปลี่ยนแปลงผ่านกลไกสภา แต่ผู้บริหารพรรคได้เตรียมการรับมือทุกสถานการณ์หรือไม่นั้น ก็ต้องตอบว่ามีแน่นอน เรามีการวางแผนทุกฉากทัศน์ ตนยืนยันเหมือนที่ได้ยืนยันทุกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกความคิด ทุกนโยบาย ที่เราพยายามจะผลักดัน อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องมียานพาหนะที่ขับเคลื่อนชุดความคิดต่อไปในการเมืองไทยแน่นอน

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าลูกพรรคจะเสียขวัญเพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์ยุบพรรคมีสถานการณ์ผึ้งแตกรัง นายพริษฐ์กล่าวว่า สิ่งที่กังวลมากกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อค่านิยมของการเมืองไทย ถ้าพูดถึงขวัญกำลังใจ หรือความทุ่มเทของสมาชิกพรรค คิดว่าเดินหน้าต่อเต็มที่อยู่แล้ว เมื่อถามว่า ช่วงที่มีความอ่อนไหวจะมี ส.ส.ย้ายพรรคหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า มั่นใจว่าทุกคนที่มาสมัครเข้าพรรคถูกกลั่นกรองโดยคณะกรรมการสรรหา มีชุดความคิดตรงกัน และมีเอกภาพในการขับเคลื่อนชุดความคิดให้เป็นจริง ตัวอย่าง เมื่อถามว่า คดียุบพรรคจะทำให้เสียสมาธิในการตรวจสอบรัฐบาลหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ไม่เสียสมาธิแน่นอน ตั้งแต่เริ่มทำงานสภาชุดนี้ พรรคก้าวไกลเดินคู่ขนานอยู่แล้ว ทีมกฎหมายก็ทำเต็มที่ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ส่วน ส.ส.ก็ทำงานในสภา โดยเดินหน้าต่ออย่างไม่เสียสมาธิ

ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์
matichon.co.th