เทียบฟอร์ม 4 ตัวเต็ง “ขจร ศรีชวโนทัย – ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ – พรพจน์ เพ็ญพาส – ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ลุ้นเก้าอี้ ปลัด มท. แทน “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้ : รายงานพิเศษ โดยทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 มีมติแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย เสนอ จำนวน 10  ราย  ประกอบด้วย

1. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ พ้นจากผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง 2. นายราชันย์ ซุ้นหั้ว พ้นจากผู้ว่าฯ หนองคาย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง 3. นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง พ้นจากที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 4. นายวัชรเดช เกียรติชานน พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 5. นายสยาม ศิริมงคล พ้นจากผู้ว่าฯ นครราชสีมา ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.)

6. นายพรพจน์ เพ็ญพาส พ้นจากรองปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน 7. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม พ้นจากตำแหน่งอธิบดี พช. ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา 8. นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ 9. นายชูชีพ พงษ์ไชย พ้นจากผู้ตรวจราชการ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน 10. นายสมภพ สมิตะสิริ พ้นจากผู้ตรวจราชการ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย

การเสนอแต่งตั้งดังกล่าวเกิดจากกระทรวงมหาดไทย มีตำแหน่งระดับซี 10 ว่างลง 2 ตำแหน่ง คือ อธิบดีกรมที่ดิน หลัง ชยาวุธ จันทร เจอแรงกดดันเรื่องเขากระโดง จนต้องลาออก โดยอ้างว่าขอไปดูแลครอบครัว

อีกหนึ่งตำแหน่ง คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ว่างลง เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2567 หลัง นิติ วิวัฒน์วานิช เสียชีวิตขณะเข้ารักษาอาการหัวใจวายเฉียบพลัน

การแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของ มท. ครั้งนี้ เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า จะมีการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายชุดใหญ่ด้วยการลดชั้น ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือน ก.ย. 2566 ลงไปเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา และโยกสลับ สยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ให้ขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

และให้ พรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัด มท. อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อดีตรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งสอดรับกับการขึ้นชื่ออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ ในเว็บไซต์ของกรมที่ดิน ที่ปรากฏชื่อ พรพจน์ เป็นอธิบดีกรมที่ดิน

เปิด 4 ตัวเต็งปลัด มท.

แม้จะมีการแต่งตั้งโยกสลับตำแหน่งข้าราชการระดับสูงใน มท.ครั้งนี้ ตัวเต็งที่จะขึ้นมาเป็น “ปลัด มท.” แทน สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้ ยังคงมีลุ้นกัน 4 คน ที่อยู่ไลน์จะขึ้นดำรงตำแหน่งได้ ประกอบด้วย

1.ขจร ศรีชวโนทัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ก่อนหน้าเป็น ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ย้อนไปอีกเคยเป็นรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่น “สิงห์ดำ” กับ สุทธิพงษ์ ปลัด มท. อีกทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. กับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ มท.1

ขจร เกิดวันที่ 23 พ.ย. 2507 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบรัฐศาสตร จุฬาฯ (สิงห์ดำ) จะเกษียณอายุราชการ ในปี 2568

ถัดมา ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เคยเป็นทั้งนายอำเภอ และรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ก่อนเป็น ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ และเข้ารับตำแหน่งอธิบดี ปภ. เมื่อ 1 ต.ค. 2566

ไชยวัฒน์ เกิดเมื่อ 12 มี.ค. 2508 ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะเกษียณอายุราชการ ในปี 2568

คนต่อมา พรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัด มท. อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ เคยเป็น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, ผู้ว่าฯ สระแก้ว, อดีตรองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์

พรพจน์ เกิดเมื่อ 9 มี.ค. 2509 ปัจจุบันอายุ 58 ปี จบวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ  จะเกษียณอายุราชการ ในปี 2569

และ คนที่ 4 คือ ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ที่แม้จะถูกโยกย้ายจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา แต่ก็ยังมีโอกาสลุ้นตำแหน่ง “ปลัด มท.” ดังที่ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. ออกมายกตัวอย่างว่า

“เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวงมหาดไทย เคยมีปลัด มท. คนที่ 32 คือ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แล้วไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา และกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการฯ รองปลัด มท. และก้าวสู่ตำแหน่งปลัด มท. คนที่ 32”

ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม เกิดเมื่อ 23 ก.ค. 2510 ปัจจุบันอายุ 57 ปี จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร จุฬาฯ (สิงห์ดำ) ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต (การปกครอง) จุฬาฯ  จะเกษียณอายุราชการ ในปี 2570

เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, ผู้ว่าฯ ปทุมธานี, ผู้ว่าฯ เลย, ผู้ว่าฯ ราชบุรี, รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, รองผู้ว่าฯ นครราชสีมา, อดีตโฆษก มท.

ส่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครองคนปัจจุบัน ที่เป็น “สิงห์ดำ” ก็อยู่ในไลน์ที่จะเป็น ปลัด มท.ได้ แต่ติดตรงที่เหลืออายุราชการอีกหลายปี คือ จะเกษียณราชการในปี 2574 ยังพอมีเวลาที่จะไปลุ้นขึ้นเป็น ปลัด มท. ในปีถัดๆ ไป

ตัวเต็ง ปลัด มท. หลายคนล้วนแล้วแต่คลุกคลีใกล้ชิดรู้งานกับ “บุรีรัมย์นิเวศ” แถบทั้งสิ้น

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ “มหาดไทย” โดยเฉพาะการวางคนขึ้นมานั่ง “ปลัด มท.” อีกราว 5-6 เดือน ก็จะชัดเจนออกมาว่า ใครจะได้ขึ้นคุมข้าราชการมหาดไทย ทั้งกระทรวง

แต่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย ก็คงไม่พ้นเป็นคนในสังกัดค่าย “สิงห์เน” ไม่ใช่ “สิงห์แดง-สิงห์ดำ-สิงห์ทอง” ใดๆ   

ปลัดมท.ปัดเตะตัดขา“ชัยวัฒน์”

“สุทธิพงษ์”แจงเหตุย้ายอธิบดีพช.ไปเป็นผู้ว่าฯ โคราช เจ้าตัวเลือกจังหวัดเองเหตุเป็นภูมิลำเนาภรรยา ยกอดีตแจงไม่ตัดโอกาสลุ้นปลัด มท.

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงภายหลัง ครม.ให้ความเห็นชอบโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะการโยกย้าย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) ไปเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา ว่า ได้พูดคุยกับ นายชัยวัฒน์ แล้ว ซึ่งท่านตัดสินใจเลือกไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา เพื่อทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของภรรยาท่าน ดังนั้น ที่ปรากฏข่าวว่าเตะตัดขา ไม่ใช่เรื่องจริง เราพูดคุยกันก่อนแล้ว สอบถามกันก่อนที่จะเสนอเรื่องท่านรมว.มหาดไทย

ปลัด มท. กล่าวว่า ขอย้ำว่า เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวงมหาดไทย เคยมีปลัด มท. คนที่ 32 คือ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แล้วไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ นครราชสีมา และกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการฯ รองปลัด มท. และก้าวสู่ตำแหน่งปลัด มท. คนที่ 32

“ขอยืนยันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย พิจารณาจากความเหมาะสม ยึดระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญได้พูดคุยสอบถามก่อนเสนอ”

ส่วนการเสนอย้าย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครราชสีมา มาดำรงตำแหน่งอธิบดี พช. เนื่องจากมีความรู้ความสามารถมาขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนภาพรวม

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ
thansettakij.com