“สันธนะ” อ้าง “ชาดา” ให้สัมภาษณ์หมิ่น ฟ้องเอาผิด 4 คดีรวด
“สันธนะ” เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ลุมพิธี เอาผิด “ชาดา” ข้อหมิ่นประมาทฯ จากกรณีด่าออกสื่อฯ ว่า “ขี้กาก” พร้อมแฉต้นตอบ่อนบางใหญ่
จากกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล บุกกระทรวงมหาดไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังคาใจ มท.บุกทลายบ่อนบางใหญ่ แต่ไม่พบนายชาดา ที่กระทรวง โดยย้อนถามว่า นายชาดา ไม่รู้เรื่องบ่อนนี้เลยหรือ ทั้งที่คุยกับ “นกเขา” เจ้าโดยตลอด
ผู้สื่อข่าว ติดต่อไปยังนายชาดา ว่าจะให้นายสันธนะ พบหรือไม่ว่า นายชาดา กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ที่กระทรวงวันนี้ ต้องทำหน้าที่ในสภา พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567
พร้อมฝากบอกด้วย มันไม่มีราคาเลย เป็นใครก็ไม่รู้ อย่ามายุ่งกับผม มันขี้กาก ผมไม่สนมันหรอก คนอย่างสันธนะ ไม่มีราคา มันก็จะเอาเงิน เอาอะไรของมันไป ผมไม่สนมันอยู่แล้ว ส่วนที่นายสันธนะ ออกมาแฉ โดยการโชว์ภาพ นายชาดา คู่กับเจ้าของบ่อน นายชาดา กล่าวว่า “มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ผมถ่ายรูปกับเจ้าของบ่อน แล้วผมไปจับอ่ะ มันไม่เกี่ยวมันคนละเรื่อง ผมถ่ายรูปกับคนเยอะแยะ
ล่าสุดทางด้านนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เอาผิด นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีที่ นายชาดา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและมีการพาดพิง ใช้คำพูดด้อยค่า เหยียดยาม ทำให้ นายสันะนะ และครอบครัว เสื่อมเสียชื่อเสียง เช่น “ด่าว่าขี้กาก” โดยได้นำหลักฐานเป็นการถอดเทปคำสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มีเสียงของ นายชาดา ชัดเจน มายื่นให้พนักงานสอบสวน โดยเป็นการแจ้งความแยกสำนวนต่างกรรมต่างวาระ รวมทั้งหมด 4 คดี รวมถึงนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบ่อนบางใหญ่ ที่ได้มาจากเจ้าของบ่อน มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี อีกด้วย เพื่อขอให้ช่วยรวบรวมส่งไปยังเจ้าของคดีดังกล่าว
นายสันธนะ เปิดเผยว่า การให้สัมภาษณ์ของ นายชาดา เป็นพฤติกรรมที่ผิดต่อจริยธรรมนักการเมือง หลังจากนี้จะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของ นายชาดา และรับรองว่ารัฐมนตรีภายใต้การกำกับดูแลของ นายเศรษฐา นั้น ไม่ชอบการพนันจริงหรือไม่ รวมถึงยังได้นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบ่อนบางใหญ่ มามอบให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี โดยเป็นหลักฐานที่ นายนกเขา เจ้าของบ่อน โทรศัพท์หาตนเอง เพื่อขอยืมเงินไปหมุนเวียนในบ่อน ย่านบางซื่อ และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานที่เกี่ยวกับบ่อนบางใหญ่ ทำไมไม่ไปยื่นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หรือ สภ.ท้องที่เจ้าของคดี นายสันธนะ ตอบว่า เพราะตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี แต่หากมีการตรวจสอบข้อมูลที่ตนเองให้นั้น จะพบว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ สามารถเรียกตนเองไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งไปเล่นการพนันที่บ่อนแห่งนี้ แล้วเสียไป 15 ล้านบาท นั้น นายสันธนะ ตอบว่า ไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้ แต่ที่รู้ คือ กล้องวงจรปิดในโซน VIP หายไป เพราะคนในบ่อนไหวตัวทัน นำเซิร์ฟเวอร์ออกไปก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ส่วนภาพวงจรปิดที่มีการเผยแพร่ออกไป เป็นเพียงภาพโซนด้านนอก คนละส่วนกับโซน VIP
นายสันธนะ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า บ่อนแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2566 ช่วงเดียวกับที่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และมีการร้องเรียนช่วงเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่า ช่วง 4 เดือน หลังเปิดบ่อน ฝ่ายปกครองจะไม่รู้ได้อย่างไร และเหตุใดต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน ถึงจะเข้าตรวจค้น
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า กังวลหรือไม่ว่า นายชาดา จะแจ้งความกลับ นายสันธนะ ยืนยันว่า ไม่กลัว และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับ นายชาดา ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานีตำรวจ อัยการ หรือศาล แต่จะไม่ไป จ.อุทัยธานี แต่ถ้าต้องไปจริง ๆ ก็ต้องเตรียมตัว และเตรียมทีมงานให้พร้อม
ขอบคุณข่าวจาก topnewsonline
topnews.co.th