09.00 INDEX ​​​บทบาท ลักษณะ ระเบิดพลีชีพ ​​​เบื้องหน้า บังคับ ‘เกณฑ์ทหาร’

นับวันกระบวนท่าในทางการเมือง ของ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ จะสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในลักษณะอันเป็น “ระเบิดพลีชีพ” อย่างเด่นชัด

​เนื่องจากการได้มาของ “สด.43” ในมือทั้งๆที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ทราบอย่างเป็น “วิทยาศาสตร์” แต่ผลสะเทือนก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

​ไม่เพียงแต่จะทำให้บรรดา “นักเคลื่อนไหว” ในลักษณะอันเป็นการจับผิดในทำนองตั้งคำถามว่า “วันนี้พรรคก้าวไกลโกหกอะไร” ได้ออกจากที่เคยแอบๆซ่อนๆเผยแสดงตัวตนออกมาเท่านั้น

Advertisement

​หากยังทำให้ “แนวรบ” ที่เคยจำกัดกรอบในลักษณะเฉพาะส่วนดำเนินไปอย่างเป็นการ “ขยายวง” เป็น นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

​และเมื่อหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนออกมาแสดงตนเป็น “เจ้าภาพ” ด้วยตนเองโดยการส่งนายทหารพระธรรมนูญไปแจ้ง ความกล่าวโทษ นั่นแหละคือเป้าหมายอย่างแท้จริง

​โดยมูลฐานไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมองจากด้านของ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ ไม่ว่าจะมองจากด้านของ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สรุปได้อย่างเป็นเอกภาพ

​ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นอย่างเป็น “ขบวนการ”

คำถามหนึ่งซึ่งเสนอต่อสังคมโดยฉับพลันทันใดก็คือ ข้อมูลในลักษณะอันเป็น “เอกสาร” หลุดรอดไปถึงมือของคนที่ออกมาเล่น บทเป็นกองหน้าในการเล่นงานพรรคก้าวไกลได้อย่างไร

​ทุก “ข้อมูล” ล้วนดำรงอยู่ในสภาพอันเป็น “เอกสารภายใน” ทั้งสิ้น ไม่ว่าที่เรียกว่า “ต้นขั้ว” ไม่ว่าที่เรียกว่า “ผลตรวจเลือก”

​ปริศนาที่จำเป็นต้องมีการคลี่คลายในขั้นตอนแห่งการพิจารณาคดีในขั้นศาลยุติธรรมก็คือ ใบสด.43 ในมือของ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ มาอย่างไรพร้อมกับลายเซ็นของนายทหาร

​และที่กลายเป็นประเด็นดำรงอยู่อย่างเป็น “ไวรัล” ในโลกโซ เชียล มีเดีย ก็คือ ความรับรู้ที่ลึกซึ้งและกว้างขวางอย่างเด่นชัดคือ ช่องทางทุจริต ช่องทางในการหาผลประโยชน์

​ไม่ว่าในที่สุดแล้วชะตากรรมของ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ จะเป็นอย่างไรแต่ปมแห่ง “การบังคับเกณฑ์ทหาร” ก็ระเบิดเถิดเทิง

​คำถามก็คือ นี่เป็นจังหวะก้าวแห่ง “ปฏิรูปกองทัพ” มิใช่หรือ

ด้านหนึ่ง นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ อยู่ในสภาพ “เปลือย” ตัวเอง ด้าน หนึ่ง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนก็ “เปลือย” ตัวเอง

​เปลือยระบบ”บังคับเกณฑ์ทหาร”ต่อสังคม ล่อนจ้อน

​ไม่เพียงแต่ นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ จะถูกลากตัวไปขึ้นศาล หากคนอื่นๆรวมทั้งหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนก็เข้าสู่กระบวน การของศาลเช่นเดียวกัน

​เป็นการพิสูจน์ถึงสถานะและการดำรงอยู่แห่งกระบวนการ ในการ “บังคับเกณฑ์ทหาร” ว่ามีความเป็นจริงอย่างไร

ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์ matichon.co.th