จังหวะลุยไฟชะงัก นโยบายเรือธงหลักคาราคาซัง ผลประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน ยังไม่ได้ข้อสรุปโครงการแจกเงินหมื่น
ต้องยื้อเวลาออกไปอีก 30 วัน ตั้งคณะทำงานมาศึกษาข้อทักท้วงจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
พิจารณาทบทวนข้อห่วงใยใหม่ทั้งหมดทุกประเด็น ไม่ว่าจะจ่ายเงินครบทุกคน หรือแค่กลุ่มเปราะบาง จะใช้วิธีกู้มาแจกหรือใช้งบประมาณปกติ คล้ายๆกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่
ผ่อนคันเร่งดื้อๆ ไม่ตื๊อกู้เงิน 5 แสนล้านบาท มาแจกมือเติบเหมือนเก่า
รัฐบาลแหยงไฟคลอก จากที่เคยเสียงดัง ไม่แคร์แรงต้าน ค่อยๆลดโทนลง ออกลูกแทงกั๊ก ไม่หนักแน่นเข้มแข็งเหมือนเก่า
มาช้าแต่มาชัวร์ ชักไม่แน่ เพราะยังไม่รู้ฉากจบ หลังนำความเห็นทีมกฎหมายและองค์กรอิสระกลับไปทบทวนแล้ว ข้อสรุปใหม่ที่ได้จะออกมาใกล้เคียงกับปกเดิมหรือไม่
ดิจิทัลวอลเล็ตยังคลุมเครือ ต้องรออีก 30 วัน ค่อยมาลุ้น จะไปต่อหรือพอแค่นี้
แต่ที่ไม่ต้องรอ เหลือแค่นับถอยหลัง 24 ชั่วโมงคือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คัมแบ็กรัง “จันทร์ส่องหล้า” ในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ไม่ต้องอุดอู้ทนอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อีกต่อไป
นายใหญ่กลับสู่อิสรภาพ ได้อานิสงส์พักโทษ แต่ไม่รู้จะพักการเมืองหรือไม่
กระดานอำนาจประเทศไทยขยับคึกคัก ลูกพรรคเพื่อไทยระริกระรี้เรียกร้องทูนหัวของบ่าวขยับแข้งขยับขาเคาะสนิมการเมือง
เปิดทางให้กลับมารับบทกุนซือรัฐบาล ให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจ แก้เกมนโยบายหาเสียงหลักช็อต ดิจิทัลวอลเล็ตเครื่องติดๆดับๆ เดินหน้าไม่ได้สักที ตลอดจนนโยบายประกอบอื่นๆอย่างซอฟต์พาวเวอร์ แลนด์บริดจ์ ก็ยังล้มลุกคลุกคลาน ทรงตัวไม่อยู่
ถึงเวลานายเก่าอาจต้องใช้ชั่วโมงบินมาช่วยประคับประคองพรรคเพื่อไทย ไม่ให้หน้าตักความน่าเชื่อถือถูกด้อยค่า ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ให้คุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไปจากการพลิกขั้วจับมือทีมลุงตั้งรัฐบาล
แต่ย่อมเลี่ยงไม่ได้กับเสียงวิจารณ์ การเป็นผู้คุมเกมการเมืองตัวจริง
เข้าทางกองเสี้ยมยุแยง ปั่นกระแสสนุกปาก เกิดภาวะอำนาจซ้อน ประเทศไทยมีนายกฯ 2 คน สร้างความกดดันให้ “นายกฯนิด” กระอักกระอ่วน
ปม “ทักษิณ” ถูกหยิบมาใช้สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง เติมหัวเชื้อรอเขย่าทั้งปมอำนาจซ้อนในพรรคเพื่อไทย การปรับ ครม. การก้าวก่ายอำนาจบริหาร
ขยายผลให้ลามไปถึงการปลุกอารมณ์ร่วมสังคม การได้สิทธิพิเศษของนายใหญ่ในฐานะผู้ต้องขัง ไม่ต้องถูกคุมตัวเข้าเรือนจำ แต่ให้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลท่ามกลางข้อครหา “ป่วยทิพย์” รอเวลาเข้าเงื่อนไขพักโทษ ก็กลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม
ขยี้ความรู้สึกไม่พอใจ เรื่องความเหลื่อมล้ำ 2 มาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม
แรงต้าน “ทักษิณ” ถูกเขย่าให้ทวีความตึงเครียด เลี้ยงกระแสความขุ่นเคืองอารมณ์สังคม รอจังหวะสุกงอม เดือน มี.ค.ที่จะมีเหตุการณ์เข้มข้นทางการเมืองหลายช็อต
อาทิ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 67 วาระ 2-3 การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เปิดทางตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างกติกาประเทศ
ฉบับใหม่ การอภิปรายรัฐบาลทั่วไปโดยไม่ลงมติของ สว.วันที่ 25 มี.ค.
เผลอๆอาจต่อเนื่องด้วยเวทีซักฟอกใหญ่ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน
คิวตะลุมบอนหนักๆต่อแถวรอ แต่ละเรื่องหมิ่นเหม่ จุดอารมณ์ขัดแย้งสังคมให้ปะทุขึ้นมาอีก ยังไม่รู้รัฐบาลจะพลิกตำรารับทันหรือไม่
อุณหภูมิการเมืองในสภาฯสะสมความร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างจากการเมืองนอกสภาก็ไต่ระดับความเข้มข้น
ฉากความรุนแรงในสังคมคุกรุ่นหนัก เริ่มหนังตัวอย่างฉากปะทะจากความเห็นต่างทางความคิดคน 2 เจเนอเรชัน วนลูปกลับมาใหม่
หัวเชื้ออันตรายโผล่รอบทิศ ทั้งปมดิจิทัลวอลเล็ต-ทักษิณ-ความขัดแย้งในสังคม รอให้ “นายกฯนิด” ถอนฟืนจากกองไฟ
หากคุมอุณหภูมิไม่อยู่ อาจถูกไฟคลอก กลายเป็นจุดเปลี่ยนเกมอำนาจ!!!.
ขอบคุณข่าวจาก thairathonline
thairath.co.th