“ป้ามล” นำทีมก๊วนทะลุวังบุกศาลอาญา ยื่นค้านฝากขัง “ตะวัน-แฟรงค์” ลั่นเด็กกลุ่มนี้คือฮีโร่ กล้าตั้งคำถามตบหน้าคนรุ่นเก่า จี้ศาลชักฟืนออกจากกองไฟ ก่อนบานปลายมากกว่านี้
ไม่ได้ประกันถึง 3 ครั้งรวดเลย สำหรับสองคู่หูก๊วน 3 นิ้ว อย่างตะวัน และแฟรงค์ ผู้ต้องหาคดี ม.116 จากกรณีป่วนขบวนเสด็จ งานนี้ทำเอาแนวร่วมไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งก็รวมถึงนางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าป้ามลคนนี้ มักจะออกมาซัพพอร์ตการกระทำของแก๊ง 3 นิ้วอยู่เสมอๆ
โดยนางทิชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในวันพรุ่งนี้ 10 มีนาคม มีนัดไปยื่นขอประกันตัวตะวันที่ศาล ไม่รู้คำตอบ แต่รู้ว่าสมควรทำ เพื่อเยาวชนที่เด็ดเดี่ยว แต่ต้องไม่โดดเดี่ยว ไม่รู้อิมแพคต่อตัวเอง แต่พร้อมรับมือ ต้องการเห็นกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ขึ้นตรงต่อความโชคดี โชคร้าย ปาฏิหาริย์ ศาลพระภูมิ #saveหนุ่มสาวในกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ได้สัดส่วน หรือความอยุติธรรม
ล่าสุดนางทิชา พร้อมด้วยนายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของตะวัน นายเอกชัย หงส์กังวาน แบม อรวรรณ สายน้ำ นภสินธุ์ เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อยื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังตะวัน และแฟรงค์ โดยนางทิชา บอกว่า สิทธิ์ในการประกันตัวเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้ การต่อสู้ของ ตะวัน แบม บุ้ง แฟรงค์ และนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ตั้งคำถามกับระบบที่เกิดก่อนเขา และเขาก็สงสัยในระบบเหล่านี้ มันเป็นคำถามที่ใหญ่และตบหน้าคนที่เกิดก่อนด้วยซ้ำ การที่เรามาที่ศาล เพราะยังเหลือศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น จึงหวังว่าจะยังคงมีผู้พิพากษาที่มีความเป็นมนุษย์ในสถาบันแห่งนี้ จะกล้าหาญพอ ที่จะชักฟืนออกจากกองไฟให้ได้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้
ขณะที่สายน้ำ บอกว่า วันนี้พ่อของตะวันเดินทางมาด้วย เพราะเขาห่วงลูกสาวมาก นอนไม่หลับ และจะอยู่รอฟังผลของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นางทิชา และพ่อของตะวัน ได้ขึ้นไปยื่นเอกสารคำร้องคัดค้านการฝากขัง และขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งหมดได้ลงมาทำกิจกรรมจุดเทียนบนขั้นบันไดหน้าศาลอาญา พร้อมร้องเพลงเเสงดาวแห่งศรัทธา จากนั้น รปภ. ได้ขอความร่วมมือให้ทั้งหมดไปจุดเทียนที่ด้านนอกบริเวณศาล
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา “หยก” ที่เดินทางมาด้วย ได้ใช้ลิปสติกสีแดงเขียนลงบนเสาหน้าศาลอาญา ด้วยตัวอักษร ค.ควาย ก่อนที่มวลชนจะขอให้หยกยุติการกระทำดังกล่าว และนำผ้ามาเช็ดทำความสะอาด จากนั้นหยก ได้เดินไปยังบริเวณด้านหน้าศาล และใช้ลิปสติกแท่งเดิมเขียนลงบนพื้นปูนว่า “ศาลส้น” และมวลชนก็ได้มาห้ามปรามการกระทำดังกล่าว พร้อมเช็ดทำความสะอาดให้อีกครั้ง ก่อนที่หยก และเพื่อนชายจะนั่งรถยนต์ส่วนบุคคลออกไป
ต่อมา ในช่วงบ่าย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในการไต่สวนคำร้องขอฝากขังผัดที่ 4 ศาลมีคำสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน เร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จในการฝากขังครั้งนี้ แม้ผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการวิกฤติตามที่ผู้ร้องอ้าง แต่เมื่อผู้ต้องหาทั้งสอง อยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ส่งผลให้ตะวัน แฟรงค์ ยังคงต้องถูกควบคุมตัวต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก topnewsonline
topnews.co.th
