“หมออ๋อง” เผย ยังไม่คิดเรื่องยุบก้าวไกล ตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะยังเร็วเกินไป ชี้ ศาลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งคำร้องยุบพรรคก้าวไกลให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จากการใช้นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หาเสียง ซึ่งในขณะนั้น นายปดิพัทธ์เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งก็จะเข้าข่ายถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เป็นเวลา 10 ปีด้วย หากศาลวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งนายประดิพัทธ์ กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะคุยเรื่องยุบพรรค วันนี้สิ่งที่ต้องตั้งหลักก็คือ ว่า ในหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงมองว่า เรื่องยุบพรรคเป็นเรื่องปกติ ถ้าเอาเวลาไปทุ่มเท ก็จะเสียเวลากับการคิดว่าทำไมถึงยุบพรรค แล้วไปอยู่ที่ไหนอย่างไรมันเสียสมาธิทำงาน ดังนั้น ตอนนี้จะเดินหน้าทำงานเต็มที่ รู้ข้อจำกัดของกฎหมาย เพราะฉะนั้นใช้เวลาเวลาที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวให้ดีที่สุดเท่านั้นพอแล้ว หากมีคำวินิจฉัยจริงๆ มีเดดไลน์ค่อยเตรียมตัว
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไร กับการที่มีการวิเคราะห์กันว่า สามารถใช้คำวินิจฉัยเมื่อครั้งที่แล้วได้เลย ไม่ต้องไต่สวน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ศาลที่ไม่ต้องไต่สวนคือศาลอะไร ตนคิดว่า ศาลที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ถ้าย้อนไปได้มีแค่ 2 ศาลเท่านั้นก็คือศาลทหารกับศาลศาสนา
ดังนั้น หากระบบศาลไม่เปิดโอกาสให้ชี้แจง ก็คงต้องมีการตั้งคำถาม กับระบอบความยุติธรรม การจะกล่าวหาด้วยข้อกล่าวหาที่รุนแรงขนาดนี้ และไม่ได้เป็นข้อกล่าวหาที่พิสูจน์ด้วยหลักฐาน เช่น การขับรถเร็วเกินอัตรา แต่บอกว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง แล้วบอกไม่ต้องมาชี้แจง นั่นผิดทันที เรื่องนี้ทั้งประชาคมโลกและสังคมไทยจะมีคำถามกับระบบยุติธรรมมากมาย
ขอบคุณข่าวจาก มติชนออนไลน์
matichon.co.th


