สภาฯ เห็นชอบรายงานศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร 253 ต่อ 0 โดยมี สส.อภิปราย แนะทบทวนการศึกษาให้รอบคอบครอบคลุมทุกมิติ

วันนี้ (28 มี.ค.2567) การอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีความเห็นที่หลากหลาย โดยว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายเห็นด้วยกับการนำรายได้เข้าประเทศช่วยเหลือประชาชน แต่มีความกังวลว่ารายงานอาจเป็นเพียงเอกสารที่ไม่ได้บรรจุในร่างกฏหมาย ทำให้สูญเสียเวลาและโอกาสในการศึกษา

โดยเสนอแนะควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความเพียงพอของเงินกองทุนในการใช้บำบัดผู้ติดพนัน และยังไม่ได้ศึกษาจำนวนนักบำบัดที่เหมาะสม และไม่ได้ศึกษาผลกระทบในระยะยาวของผู้ติดการพนัน เปรียบ “โจรปล้นบ้าน 10 ครั้งไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว และไฟไหม้ 10 ครั้งไม่เท่ากับการเล่นพนัน”

อ่านข่าว : เปิด 12 ธุรกิจ “สถานบันเทิงครบวงจร” ฝ่าฝืนโทษสูงสุดปรับ 5 แสน

ช่วงหนึ่งกล่าวถึงบทกำหนดโทษหลักแสนบาทเท่านั้น ไม่สอดคล้องกับสภาพของกิจการที่เรียกว่าเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดยเสนอแนะว่า ควรกำหนดค่าปรับตามบทลงโทษเป็นร้อยละของรายได้ พร้อมยอดค่าปรับขั้นต่ำ และไม่มีการควบคุมโฆษณาที่ต้องขออนุมัติก่อน โดยเฉพาะไม่ได้ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายที่แนบในรายงาน ก่อนจะถึงท้ายขอให้นำมาตรการต่างๆ ที่ได้ศึกษาไว้บรรจุไว้ในกฎหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบทางสังคมที่อาจจะเกิดขึ้น

นานจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมาธิการฯ ลุกขึ้นชี้แจงว่าสิ่งที่แนบร่างกฎหมายมาเป็นการยกร่างตุ๊กตา ซึ่งสุดท้ายรายละเอียดจะมีการถกกันอีกเยอะ เนื่องด้วยกลไกการศึกษาของกรรมาธิการกระชั้นในช่วงเวลา 4 เดือน ซึ่งหากจะเดินหน้าไม่ว่ารัฐบาลไหนจะต้องทำการศึกษาเชิงลึกอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรายงานวันนี้เป็นเรื่องของโครงสร้างความเหมาะสมจำเป็น และกลไกกำกับควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ

อ่านข่าว : เรือธงสกัดสีเทา “กาสิโนครบวงจร” พลุไฟรัฐบาลจุดแก้เศรษฐกิจ

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่ามีภาคประชาชนมายื่นหนังสือ ซึ่งกรรมาธิการจะต้องตระหนักนำความเห็นไปเสริม และในรายงานยังขาดการสร้างความเข้าใจสังคม ว่าเป้าหมายไม่ใช่การทำเฉพาะกาสิโนเท่านั้น แต่หมายรวมถึงเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หลายอย่างประกอบการที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ และอาจเป็นเหตุให้สังคมมองกรรมาธิการในเชิงลบ

1. มุ่งแต่เรื่องกาสิโน
2. เป็นการทำลายสังคม
3. เป็นการรับใช้นายทุนต่างชาติ

ดังนั้นจะต้องแก้ไขหาเป้าหมายการทำ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ พร้อมถามว่าเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์สามารถเกิดในสมัยรัฐบาลนี้หรือไม่

ส่วนนายวิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่าประเทศไทยในปัจจุบันมีบ่อนเสรีเกิดขึ้นมากมายจนเกิดปัญหาความขัดแย้งในวงการตำรวจ ที่มีตำรวจระดับสูงถูกกล่าวหาไปพัวพันกับการพนันออนไลน์ รับส่วย และฝากกรรมาธิการว่าเมื่อเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรกาสิโนถูกกฎหมาย และหากมีคนลักลอบเปิดบ่อนโดยไม่ได้ขออนุญาต ใครจะเป็นผู้จัดการ พร้อมเสนอแนะให้แบ่งรายได้โดยคิดจัดสรรร้อยละ 50 ให้กับผู้สูงอายุในประเทศ จ่ายเป็นรายเดือน คาดว่าจ่ายเดือนละ 600 อาจจะปรับเป็นเดือนละ 5,000 บาท

นายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ขอให้กรรมาธิการฯทบทวน ศึกษารายงานให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งเรื่องของการจำกัดเงื่อนไขคนเข้าใช้บริการว่าเป็นโอกาสทำให้เกิดบ่อนเล็กบ่อนน้อย หรือบ่อนเถื่อนยังคงมีต่อไป สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้ากาสิโนหลักได้

ทั้งนี้หลังสภาอภิปรายแล้วเสร็จและประธานกรรมาธิการลุกขึ้นชี้แจง ปรากฎว่า นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล เสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมโดยการแสดงตน แม้จะไม่ได้เสนอให้โหวต แต่หากแสดงตนไม่ครบองค์ก็จะทำให้สภาล่ม ทำให้ สส.รัฐบาล อย่างนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ทักท้วงว่าไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลงของวิป 2 ฝ่าย ภายใต้ข้อสังเกตว่าฝ่ายค้านมีเจตนาจะล่มองค์ประชุม
พร้อมระบุว่าหากฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองในสภาฯ การอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 จะขอนับองค์ประชุมบ้าง

โดยนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.พรรคก้าวไกล ย้ำข้อเสนอของนายรังสิมันต์ โรม ที่อภิปรายขอให้กรรมาธิการถอนรายงานนำไปทบทวนและจัดทำให้เกิดความรอบคอบ แต่นายจุลพันธ์ยืนยันไม่ถอน และจากนั้นนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส. พรรคพลังประชารัฐ จึงเสนอให้มีการแสดงตนแบบเขียนชื่อทีละคน จากนั้นเข้าสู่การแสดงตนทีละคน ตามที่ประธานในที่ประชุมใช้อำนาจวินิจฉัย

ซึ่งในท้ายที่สุดการแสดงองค์ประชุมในเวลา 20.19 น. พบว่าองค์ประชุมครบ 250 คนจากนั้นประธานได้ให้โหวตรับรองรายงานเพื่อส่งไปยังคณะรัฐมนตรีโดยโดยมีมติ 253 ต่อ 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 2 พร้อมทั้งเห็นชอบให้ส่งข้อสังเกตของสภาฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย

ขอบคุณข่าวจาก thaipbs
thaipbs.or.th