“ณณัฏฐ์” สส.เพื่อไทย ชี้ Entertainment Complex หวังสร้างงาน สร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยว ยัน ไม่ใช่กาสิโนเพียงอย่างเดียว 

วันที่ 28 มี.ค. นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในวาระพิจารณารับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องการศึกษาเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว

นายณณัฏฐ์ กล่าวว่า ตนสนับสนุนรายงานฉบับนี้ที่ศึกษาเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โดยมองว่า การเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เปิดธุรกิจกาสิโนเพียงอย่างเดียว ถือเป็นเรื่องที่ผิดฝาผิดตัว เพราะไม่ใช่การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร บางคนอาจมีความเข้าใจผิดว่า การเปิด Entertainment Complex คือ ฟรีกาสิโน ซึ่ง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงไปแล้วว่า เป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้น ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียด

ส่วนข้อกังวลของเพื่อนสมาชิก ว่า จะทำให้คนไทยติดการพนันเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น นายณณัฏฐ์ มองว่า ตั้งแต่การหารือในชั้นกรรมาธิการฯ มุ่งเป้าไปที่ Entertainment Complex มากกว่ากาสิโน เพียงอย่างเดียว โดยรายงานได้ระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเปิดกาสิโน แต่กาสิโนเป็นแค่ส่วนหนึ่งใน Entertainment Complex เท่านั้น

ตนขอยกตัวอย่าง สิงคโปร์ ตึก Marina Bay Sands ที่พื้นที่กว่า 5.8 แสนตารางเมตร แต่ใช้พื้นที่กาสิโนเพียง 15,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็น 2.5% ของพื้นที่ทั้งหมด ในปี 2022 มีสัดส่วนต่อ GDP ของสิงคโปร์ ร้อยละ 4 สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้คนท้องถิ่นกว่า 2 หมื่นคน สร้างรายได้ภาพรวมราว 4.4 แสนล้านบาท มีนักท่องเที่ยวมากว่า 15 ล้านคน มาเยี่ยมชม Marina Bay Sands กว่า 4.5 ล้านคน เก็บภาษีได้กว่า 8 หมื่นล้านบาท

นายณณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า รายงานฉบับนี้ถือว่า ครอบคลุมทั้งแนวทางการจัดระเบียบอย่างรัดกุมทั้งเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจกาสิโน เช่น คุณสมบัติผู้ประกอบการ การจัดเก็บภาษี การบรรเทาผลกระทบด้านต่างๆ

อีกทั้งจะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจฐานรากและ Soft Power การจ้างงานและการลงทุนที่มีความเชื่อมั่นจากต่างประเทศนั้น ผมเชื่อว่าท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน จะนำมาซึ่งความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ได้เป็นอย่างดีที่สุด และยังสามารถนำรายได้จากตรงนี้ไปตั้งกองทุนเพิ่มสวัสดิการภาครัฐ

“ผมไม่อยากให้รายงานฉบับนี้ขึ้นไปไว้บนหิ้งอย่างเดียว เพราะไม่ใช่หนังสือการ์ตูน ไม่ใช่หนังสือนิยาย ที่เราต้องติดตามตอนต่อไปทุกๆ 4 ปี” นายณณัฏฐ์ กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
thairath.co.th